|
|
|
Started by |
|
|
Topic: ประวัติแก้วมังกร (Read: 2265 times - Reply: 1 comments) |
|
|
|
นัดดา (Admin) |
Posts: 8 topics
Joined: 4/11/2553
|
|
ประวัติแก้วมังกร
|
« Thread Started on 9/11/2553 11:03:00 IP : 118.172.65.144 » |
|
|
|
ประวัติ ต้นแก้วมังกร มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่ในอเมริกากลาง เข้ามาในเอเชียที่เวียดนามก่อน โดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศสเมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้วและเพิ่งเข้ามาในไทยเมื่อประมาณ 5 ปี แต่เป็นพันธุ์เนื้อในขาวส่วนพันธุ์เนื้อในแดงที่ชื่อแดงสยามเป็นพันธุ์มาจากไต้หวัน เมื่อประมาณ 1-2 ปีนี้เองมีลำต้นยาวประมาณ
5 เมตร มีรากทั้งในดินและรากอากาศ ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ชอบแสงแดดพอเหมาะ โล่งแจ้ง แต่ไม่แรงกล้าเกินไป ดอกขนาดใหญ่ยาวประมาณเกือบหนึ่งฟุต เริ่มบานตอนพระอาทิตย์ตกเพียงคืนเดียวดอกหุบตอนพระอาทิตย์ขึ้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
แก้วมังกร
แก้วมังกรเป็นไม้เลื้อย มีอายุยาวนานหลายปี ลำต้นมีลักษณะเป็น 3 แฉกมีสีเขียว อวบน้ำ ซึ่งแท้จริงแล้วส่วนนั้นคือใบที่เปลี่ยนรูปไป ส่วนลำต้นที่แท้จริงอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางของแฉกทั้ง 3 บริเวณตาข้างจะมีหนาม 1-5 หนาม ดอกจะเกิดบริเวณปลายกิ่งในช่วงเดือนเมษายน เมื่อบานมีลักษณะคล้ายปากแตร จะบานในช่วงหัวค่ำจนถึงเช้า เมื่อติดผลแล้ว ผลอาจมีสีชมพูหรือเหลือง เนื้อผลภายในมีทั้งสีขาวและแดงขึ้นอยู่กับพันธุ์ และมีเมล็ดสีดำอยู่ในเนื้อผล
ลูกมังกร หรือดราก้อนฟรุต เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูลแคคตัสหรือสกุลหนึ่งของกระบองเพชร สามารถปลูกได้ดีในทุกสภาพพื้นที่จึงเป็นที่นิยมปลูกกันมากอย่างแพร่หลาย ผลจะมีลักษณะเป็นสันเหลี่ยมทู่ ๆ เรียงรายอยู่ทั่วไปบนผิวเปลือก เปลือกหนาสีออกชมพูอมส้ม ภายในผลเมื่อผ่าออกจะมีเนื้อสีขาวขุ่นภายในเนื้อก็จะมีเมล็ดเล็ก ๆ ซึ่งใหญ่กว่าเมล็ดงานิดเดียวฝังตัวอยู่เต็มไปหมด เมื่อรับประทานจะมีรสชาติหวานเย็น กรุบกรับ ไม่ระคายคอ ลูกมังกรเป็นที่นิยมกันมาในหมู่นักบริโภคชาวต่างประเทศที่ชอบลองของแปลก ซึ่งจากการศึกษาวิจัยสภาพอากาศของประเทศเวียดนามกับประเทศไทยพบว่า ไม่แตกต่างกันมานัก จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าโอกาสที่ลูกมังกรจะมาผงาดในบ้านเรานั้น เป็นไปได้สูงมาก ประกอบกับลูกมังกรยังเป็นพืชที่ทนแล้ง ปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยที่สามารถปลูกได้ โดยใช้พื้นที่ปลูกเพียงต้นละ 1 ตารางเมตรเท่านั้น ฉะนั้น จึงสามารถปลูกได้รอบ ๆ บริเวณบ้านโดยไม่จำกัด เนื่องจากเป็นพืชที่ทนความแห้งแล้ง ทนต่อโรคและแมลง จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใด ๆ และนับได้ว่าเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างปลอดภัยจากสารพิษอีกด้วย
****อย่าลืมตอบกระทู้นะจ้า |
|
|
|
Reply topic :: แสดงความคิดเห็น |
|
|
|